ข้อมูล:

 ทุ่งไหหิน เมืองโพนสะหวัน แขวงเชียงขวาง ความมหัศจรรย์ของภาชนะมีรูปทรงคล้ายไหทำด้วยหินทรายมีขนาดใหญ่มากมาย กระจัดกระจายอย ไหบางไหมีการพบโครงกระดูกมนุษย์ในไห หรือพบลูกปัดจากจีน เครื่องประดับของชนเผ่าไท และรูปสำริดของเวียตนาม จึงทำให้กลายเป็นไหปริศนามาถึงทุกวันนี้
  • ทุ่งไหหิน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองเชียงขวาง ชาวบ้านไปพบเข้าระหว่างไปหาของป่าและล่าสัตว์ ซึ่งภาชนะมีรูปทรงคล้ายไหทำด้วยหินทรายนี้มีขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ น้ำหนักมากที่สุดถึง 15 ตันและใบที่เล็กที่สุดหนักประมาณ 40 – 50 กิโลกรัมกระจัดกระจายอยู่ในระแวกของเมืองโพนสะหวัน จึงเรียกที่นี่ว่าทุ่งไหหินและยังมีทุ่งไหหินที่อื่นๆอีกในเมืองเชียงขวางอีกหลายแห่งด้วยกัน ไหหินส่วนใหญ่สกัดมาจากหินทรายที่หาง่ายในท้องถิ่น แต่มีอยู่หลายใบที่มีร่องรอยการชักลากมาจากที่อื่น บางไหมีลักษณะสกัดยังไม่เสร็จก็มี นอกจากนี้ยังค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ในไหบางลูก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันการใช้หินในพิธีศพได้อย่างดีส่วนแผ่นหินกลมๆคล้ายฝาปิดซึ่งพบอยู่ใกล้ๆ กับไหหินนั้นน่าจะเป็นแผ่นหินที่ใช้ปิดไหหินในขณะประกอบพิธีเสร็จสิ้นรอบๆไหหินพบลูกปัดจากจีน เครื่องประดับของชนเผ่าไท และรูปสำริดของเวียตนาม จึงพอจะคาดเดาได้ว่าชนเผ่าที่สร้างไหหินขึ้นมานี้จะต้องมีความเจริญและอารยธรรมสูง นักโบราณคดีรุ่นหลังๆลงความเห็นว่า เจ้าของอารยธรรมชิ้นนี้ อาจจะเป็นฝีมือของพวกจามในเวียตนามที่ล่มสลายไปแล้ว หรือเป็นฝีมือของชาวลาวเทิง ที่อาศัยอยู่ในแขวงอัตตะปือ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศลาว ติดกับชายแดนประเทศกัมพูชา สำหรับทุ่งไหหินนี้ถนนเข้าถึงสะดวก ในเมืองโพนสะหวัน แขวงเชียงขวาง ซึ่งทางรัฐบาลได้กู้ระเบิดออกหมดแล้ว มีอยู่สามกลุ่มด้วยกันคือ
  • ไหหินกลุ่มที่ 1 ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองโพนสะหวัน ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไปทางเมืองคูนเมืองหลวงเก่า ระยะทางประมาณ 7.5 กิโลเมตร มีไหหินกระจัดกระจายอยู่ในทุ่งหญ้าประมาณ 200 ใบและมีขนาดใหญ่กว่าในกลุ่มอื่นๆ ใบใหญ่ที่สุดตั้งอยู่เนินเขาทางด้านขวามือ ปากไหหันหน้าไปทางสนามบินทุ่งไหหินบริเวณที่ตั้งไหหินนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งเพราะสามารถมองเห็นสนามบินทุ่งไหหิน กองบัญชาการกองทัพอากาศลาว ตัวเมืองโพนสะหวัน ส่วนทางด้านขวามือจะมีบันไดปูนเดินลงไปยังทุ่งไหหินอีกจุดหนึ่ง ซึ่งมีมากกว่าในจุดชมวิวแห่งนี้ ถ้ามองจากจุดชมวิวไปทางซ้ายมือจะแลเห็นจำนวนนับสิบๆใบวางเรียงรายอยู่เต็มทุ่งหญ้า ถัดมาทางด้านซ้ายมือของทุ่งไหหินจะพบถ้ำแห่งหนึ่งมีแสงแดดสาดส่องลงมา ภายในถ้ำมีลักษณะเป็นปล่องมีความสูงประมาณ 60 เมตร ลักษณะภายในถ้ำไม่ลึกมากนัก สามารถบรรจุคนได้ 50 –60 คน ถ้ำแห่งนี้เคยใช้เป็นที่หลบภัยสงครามของชาวเมืองเชียงขวางยามเมื่อเครื่องบินมาทิ้งระเบิด พร้อมกับใช้เป็นคลังเก็บอาวุธและเชื้อเพลิงเมื่อสงครามอินโดจีนที่ผ่านมา บริเวณโดยรอบทุ่งไหหินบนจุดชมวิวจะพบร่องรอยการขุดสนามเพลาะเป็นแนวยาวเพื่อป้องกันการโจมตีทางอากาศ และหลุดระเบิดขนาดใหญ่หลายหลุม ตลอดจนร่องรอยที่ไหหินแตกกระจายอันเป็นผลมาจากฝูงเครื่องบิน บี 52 ของอเมริกา
  • ไหหินกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มไหหินภูสลาโต อยู่ถัดมาจากเมืองโพนสะหวันลงมาทางทิศใต้ ประมาณ 25 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่เนินเขาสองลูกจะมองเห็นไหหินกระจัดกระจายอยู่ในทุ่งหญ้าประมาณ 94 ใบ
  • ไหหินกลุ่มที่ 3 กลุ่มไหหินลาดค่าย อยู่ถัดลงมาจากกลุ่มไหหินภูสลาโต ราว 10 กิโลเมตร ประกอบด้วยไหหินประมาณ 150 ใบกระจายอยู่บนเนินเขาลูกเล็ก มองลงมาแลเห็นวิวที่ราบของท้องทุ่งท้องนาของหมู่บ้านเชียงดี ซึ่งอยู่บนเนินเขาลูกต่อไปได้อย่างชัดเจน
ประวัติ:
รื่องราวและตำนานของลาวได้เล่าสืบกันมาว่า ครั้งหนึ่งมีการต่อสู้ของยักษ์ซึ่งอาศัยในดินแดนแห่งนี้ ในตำนานท้องถิ่นบอกเล่าถึงกษัตริย์โบราณนามว่า "ขุนเจือง" ซึ่งเข้าปราบปรามยักษ์และต่อสู้กันอย่างยาวนาน ในที่สุดก็สามารถพิชิตศัตรูของเขาได้

กษัตริย์สั่งให้สร้างไหเพื่อชงเหล้าลาวและเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะ ไหถูกหล่อแบบขึ้นมาโดยใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ดินเหนียว ทราย น้ำตาล และซากพืชซากสัตว์ในรูปแบบหินผสม เป็นต้น โดยสันนิษฐานว่าถ้ำที่ 1 ในบริเวณทุ่งไหหินคือเตาเผา และไหหินยักษ์ถูกเผาที่นี่ ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจจะไม่ได้ทำมาจากหิน ข้ออธิบายอื่น ๆ กล่าวไว้ว่าไหสร้างขึ้นเพื่อเก็บน้ำฝนในฤดูมรสุม โดยใช้สำหรับกองคาราวานซึ่งอาจไม่สามารถหาน้ำได้ระหว่างการเดินทาง

ช่วงเวลาที่ดี: เที่ยวชมได้ทั้งปี แต่ควรหลีกเลี่ยงหน้าฝน

วันและเวลาเข้าชม: 
ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น.
 
ค่าเข้าชม: คนละ 10,000 กีบ

สิ่งอำนวยความสะดวก:

หมายเหตุ: 

การเดินทาง: รถยนต์

สถานที่ตั้ง:  เมืองโพนสะหวัน แขวงเชียงขวาง, ลาว.
 
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: https://th.trip.com/